เมนู

ปปาตวรรคที่ 5



1. จินตสูตร



การคิดเรื่องตายแล้วเกิดขึ้นหรือไม่ ไม่มีประโยชน์



[1725] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระ
วิหารเวฬุวัน
กลันทกนิวาปสถาน กรุงราชคฤห์ ณ ที่นั้น แล พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมา
แล้ว บุรุษคนหนึ่งออกจากกรุงราชคฤห์ เข้าไปยังสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา
ด้วยประสงค์ว่า จักคิดเรื่องโลก ครั้นแล้ว นั่งคิดเรื่องโลกอยู่ ชอบสระโบก-
ขรณี ชื่อ สุมาคธา เขาได้เห็นกองทัพประกอบด้วยองค์ เข้าไปสู่ก้านบัว
ที่ขอบสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา ครั้นแล้ว ได้มีความคิดว่า เราชื่อว่าเป็นคน
บ้า ชื่อว่าเป็นคนมีจิตฟุ้งซ่านเสียแล้ว เราเห็นสิ่งที่ไม่มีในโลก ครั้งนั้น บุรุษ
นั้นเข้าไปยังนครบอกแกหมู่มหาชนว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เราชื่อว่าเป็นคน
ถามว่า ดูก่อนบุรุษผู้เจริญ ท่านเป็นบ้าได้อย่างไร ท่านมีจิตฟุ้งซ่านอย่างไร
สิ่งอะไรที่ไม่มีในโลกซึ่งท่านเห็นแล้ว.
บุ. ดูก่อนท่านผู้เจริญทั้งหลาย จะบอกให้ทราบ เราออกจากกรุง-
ราชคฤห์เข้าไปยังสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา ด้วยประสงค์ว่า จักคิดเรื่องโลก
ครั้น แล้วนั่งคิดเรื่องโลกอยู่ ณ ขอบสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา เราได้เห็นกอง
ทัพประกอบด้วยองค์ 4 เข้าไปสู่ก้านบัวที่ขอบสระโบกขรณีชื่อสุมาคธา เรา
เป็นบ้าได้อย่างนี้ เรามีจิตฟุ้งซ่านอย่างนี้ ก็สิ่งนี้ ไม่มีในโลก เราเห็นแล้ว.

มหา. ดูก่อนบุรุษผู้เจริญ ท่านเป็นบ้าแน่ ท่านมีจิตฟุ้งซ่านแน่ ก็
สิ่งที่ท่านเห็นแล้วไม่มีในโลก ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุรุษนั้นได้เห็นสิ่งที่เป็น
จริง ไม่ใช่ได้เห็นสิ่งที่ไม่เป็นจริง.
[1726] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว สงครามเทวดากับ
อสูรประชิดกัน ก็ในสงครามนั้น พวกเทวดาชนะ พวกอสูรแพ้ ก็พวกอสูร
ที่แพ้กลัวแล้ว ยังจิตของพวกเทวดาให้งวยงงอยู่ เข้าไปสู่บุรีอสูรโดยทาง
ก้านบัว เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายจงอย่าคิดเรื่องโลกว่า โลกเที่ยง
โลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด ชีพก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น ชีพ
เป็นอื่น สรีระก็เป็นอื่น สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีก สัตว์เบื้องหน้า
แต่ตายแล้วย่อมไม่เป็นอีก สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้ว ย่อมเป็นอีกก็มี ย่อมไม่
เป็นอีกก็มี สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายแล้วย่อมเป็นอีกก็หามิได้ ย่อมไม่เป็นอีก
ก็หามิได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะความคิดนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์
ไม่ใช่พรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย ความคลายกำหนัด
ความดับ ความสงบ ความรู้ยิ่ง ความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน.
[1727] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็เมื่อเธอทั้งหลายจะคิด พึงคิดว่า
นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะความคิด
นั้นประกอบด้วยประโยชน์ เป็นพรหมจรรย์เบื้องต้น ย่อมเป็นไปเพื่อความ
หน่าย... เพื่อนิพพาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลาย
พึงกระทำความเพียรเพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ ฯลฯ นี้ทุกขนิโรธ
คามินีปฏิปทา.
จบจินตสูตรที่ 1

ปปาตวรรควรรณนาที่ 5



อรรถกถาจินตสูตร



พึงทราบอธิบายในจินตสูตรที่ 1 แห่งปปาตวรรคที่ 5.
คำว่า สระโบกขรณี ชื่อว่า สุมาคธา ได้แก่ สระโบกขรณีที่มี
ชื่ออย่างนี้. คำว่า คิดเรื่องโลก ความว่า นั่งคิดเรื่องโลกอย่างนี้ว่า ใคร
หนอแล สร้างดวงจันทร์ดวงอาทิตย์ ใครสร้างแผ่นดินใหญ่ ใครสร้างมหาสมุทร
ใครสร้างสัตว์ผู้อุปปาติกะ ใครสร้างภูเขา ใครสร้างมะม่วง ตาล และมะพร้าว
เป็นต้น. คำว่า วิเจโต ได้แก่ เป็นผู้มีจิตฟุ้งไปหรือว่า มีจิตซ่านไป. คำว่า
ภูตํเยว อทฺทส ความว่า ได้ยินว่า พวกอสูรนั้นยังสัมพริมายา (มายาของ
จอมอสูร)ให้เป็นไปแล้วอธิษฐาน โดยประการที่บุรุษนั้นเห็นเขาเหล่านั้น ผู้ขึ้น
บนช้างและม้าเป็นต้น แล้วยกขึ้นเข้าไปทางช่องก้านบัว พระศาสดาทรงหมาย
เอาอสูรนั้น จึงตรัสว่า ได้เห็นสิ่งที่เป็นจริงแล้วเทียว. คำว่า ยังจิตของ
พวกเทวดาให้งวยงง
คือ ยังจิตของพวกเทวดาให้หลงอยู่. คำว่า เพราะ
ฉะนั้น
ความว่า เพราะเมื่อคิดเรื่องโลก ก็เป็นคนบ้า.
จบอรรถกถาจินตสูตรที่ 1